วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ข้อสอบตั้งคำถามDOS

1.cd..คืออะไร
ตอบ การถอยออกทีละfolder
2.bed commandคืออะไร
ตอบ คีย์ข้อมูลผิด
3.*.*หมายความว่า?
ตอบ การสร้างชื่อ นามสกุลอะไรก็ได้
4.cd/คืออะไร
ตอบ การถอยออกต้นทาง
5.* มีชื่อว่าอะไร
ตอบ star

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

การพิมพ์อักษรแป้นเหย้า

บทที่ 1 การพิมพ์อักษรแป้นเหย้า ฟ ห ก ด ส ว กั้นหน้า 2 นิ้ว และกั้นหลัง 1 นิ้ว ฝึกพิมพ์อักษรแป้นเหย้าประจำนิ้วตามแผนผัง เรี่ยงตามลำดับจากนิ้วก้อยขวาฝึกดพิมพ์จนคล่อง สามารถจำได้อย่างแม่นยำอย่างน้อย 1หน้า จงจำไว้ว่า สายตาต้องมองอยู่ที่แบบฝึกหัดเท่านั้น อย่าหันกลับไปมองที่แป้นอักษรในนกระดาษที่เครื่องพิมพ์เด็ดขาด อ่านคำสั่งก่อนพิมพ์ทุกครั้งที่ปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดแบบฝึกหัดที่ 1.1 กั้นหน้า 2 นิ้ว กั้นหลัง 1 นิ้ว ฝึกพิมพ์แป้นเหย้าเป็นประจำนิ้วตามแผนภูมิ เรียงลำดับจากนิ้วก้อยซ้ายจนถึงนิ้วก้อยขวาอย่างน้อย 1 แผ่น ให้เว้นวรรคการระหว่างตัวอักษร 1 เคาะ ระหว่าง แถวเว้นวรรค 12 เคาะ ตามแบบ
บทที่ 2 การพิมพ์อักษรแป้น เ งการก้าวนิ้ว ตามปกตินิ้วจะต้องวางอยู่ที่แป้นเหย้าประจำ แต่เมื่อต้องการพิมพ์เป็นอักษรอื่น ที่มิใช่แป้นเหย้าให้ก้าวนิ้วไปพิมพ์ทีละนิ้ว เมื่อพิมพ์เสร็จแต่ละนิ้วให้ดึงนิ้วกลับแป้นเหย้าประจำนิ้วทันทีการก้าวนิ้ว วางนิ้วทั้งหมดไว่ที่แป้นเหย้าแป้น เ ก้าวนิ้ว ชี้ซ้าย ไปทางขวาดีดที่แป้น เแป้น ก้าวนิ้ว ชี้ขวา ไปทางซ้ายดีดที่แป้นแป้น ง ก้าวนิ้ว ก้อยขวาไปทางขวาดีดที่แป้น ง
บทที่ 3 การพิมพ์อักษรแป้น พ รการก้าวนิ้ว วางนิ้วทั้งหมดไว้ที่แป้นเหย้าแป้น พ ก้าวนิ้ว ชี้ซ้าย ขึ้นไปดีดที่แป้น พแป้น ก้าวนิ้ว ชี้ซ้าย ขึ้นไปดีดที่แป้นแป้น ก้าวนิ้ว ชี้ขวา ขึ้นไปดีดที่แป้นแป้น ก้าวนิ้ว ชี้ขวา ขึ้นไปดีดที่แป้นแป้น ก้าวนิ้ว กลางว้าย ขึ้นไปดีดที่แป้น แป้น ร ก้าวนิ้ว กลางขวา ขึ้นไปดีดที่แป้น รบทที่ 4การพิมพ์อักษรแป้น อ ท แ มการก้าวนิ้ว วางนิ้วทั้งหมดไว้ที่แป้นเหย้าแป้น อ ก้าวนิ้ว ชี้ซ้าย ลงมาดีดที่แป้น อแป้น ก้าวนิ้ว ชี้ซ้าย ลงมาดีดที่แป้น แป้น ท ก้าวนิ้ว ชี้ขวา ลงมาดีดที่แป้น ทแป้น ก้าวนิ้ว ชี้ขวา ลงมาดีดที่แป้น แป้น แ ก้าวนิ้ว กลางซ้าย ลงมาดีดที่แป้น แแป้น ม ก้าวนิ้ว กลางขวา ลงมาดีดที่แป้น ม
บทที่ 5 การพิมพ์อักษรแป้น ไ ป น ใ ๆ ผ ยการก้าวนิ้ว วางนิ้วทั้งหมดไว้ที่แป้นเหย้าแป้น ไ ก้าวนิ้ว นางซ้าย ขึ้นไปดีดที่แป้น ไแป้น ป ก้าวนิ้ว นางซ้าย ลงมาดีดที่แป้น ปแป้น น ก้าวนิ้ว นางขวา ขึ้นไปดีดที่แป้น นแป้น ใ ก้าวนิ้ว นางขวา ลงมาดีดที่แป้น ใแป้น ๆ ก้าวนิ้วก้อยซ้าย ขึ้นไปดีดที่แป้น ๆแป้น ผ ก้าวนิ้วก้อยซ้าย ลงมาดีดที่แป้น ผแป้น ย ก้าวนิ้ว ก้อยขวา ขึ้นไปดีดที่แป้น ย
บทที่ 6 การพิมพ์อักษรแป้น บ ล ฝการก้าวนิ้ว วางนิ้วทั้งหมดไว้ที่แป้นเหย้าแป้น บ ก้าวนิ้ว ก้อยขวา ขึ้นไปดีดที่แป้น บแป้น ล ก้าวนิ้ว ก้อยขวา ขึ้นไปดีดที่แป้น ลแป้น ฝ ก้าวนิ้ว ก้อยขวา ลงมาดีดที่แป้น ฝแป้น - ก้าวนิ้ว ก้อยขวา -ไปทางขวาดีดที่แป้น
บทที่ 7 การพิมพ์อักษรแป้น ถ ภ ค ต การก้าวนิ้ว วางนิ้วทั้งหมดไว้ที่แป้นเหย้าแป้น ถ ก้าวนิ้ว ชี้ซ้าย ขึ้นไปดีดที่แป้น ถแป้น ภ ก้าวนิ้ว กลางซ้าย ขึ้นไปดีดที่แป้น ภแป้น ค ก้าวนิ้ว ชี้ขวา ขึ้นไปดีดที่แป้น คแป้น ต ก้าวนิ้ว กลางขวา ขึ้นไปดีดที่แป้น ตแป้น ก้าวนิ้ว ชี้ขวา ขึ้นไปดีดที่แป้น แป้น ก้าวนิ้ว ชี้ซ้าย ขึ้นไปดีดที่แป้น
บทที่ 8 การพิมพ์อักษรแป้น จ ข ช _ /การก้าวนิ้ว วางนิ้วทั้งหมดไว้ที่แป้นเหย้าแป้น จ ก้าวนิ้ว นางขวา ขึ้นไปดีดที่แป้น จแป้น ข ก้าวนิ้ว ก้อยขวา ขึ้นไปดีดที่แป้น ขแป้น ช ก้าวนิ้ว ก้อยขวา ขึ้นไปดีดที่แป้น ชแป้น _ ก้าวนิ้ว นางซ้าย ขึ้นไปดีดที่แป้น _แป้น / ก้าวนิ้ว ก้อยซ้าย ขึ้นไปดีดที่แป้น /
บทที่ 9 การพิมพ์อักษรแป้น โ ฌ ฑ ธ ณการก้าวนิ้ว วางนิ้วทั้งหมดไว้ที่แป้นเหย้าแป้น โ ใช้นิ้ว ก้อยขวา ยกแคร่ แล้วใช้นิ้วชี้ซ้าย ดีดแป้น โ แป้นเดียวกับแป้นเหย้าแป้น ฌ ใช้นิ้ว ก้อยขวา ยกแคร่ ก้าวนิ้ว ชี้ซ้าย ไปทางขวาดีดแป้น ฌ แป้นเดียวกับ เแป้น ใช้นิ้ว ก้อยขวา ยกแคร่ ก้าวนิ้ว ชี้ขวา ไปทางซ้ายดีดแป้น แป้นเดียวกั

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551

เรื่องคอมพิมเตอร์เบื้องต้น

วันพุธ, กรกฎาคม 16, 2008
ข้อสอบปรนัย 40 ข้อ เรื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
1. ข้อใดคือความหมายของคอมพิวตอร์
ก. เครื่องคำนวณอัตโนมัติ
ข. เครื่องใช้สำนักงานอัตโนมัติรุ่นใหม่
ค. อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์อย่างหนึ่ง
ง. เป็นแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่ง
2. คอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราอย่างไร?
ก. การถอนเงินจากเครื่อง atm
ข. การจับจ่ายซื้อของในห้างสรรพสินค้าโดยใช้บัตรเครดิต
ค. การสำรองที่นั่งเครื่องบินสื่อสาร’
ง. ถูกทุกข้อ
3. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะที่สำคัญของคอมพิวเตอร์?
ก. มีความเร็วสูงในการประมวลผล
ข. มีความถูกต้องเชื่อถือได้
ค. เป็นระบบอนาลอก
ง. ทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และอัตโนมัติ
4. เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ทำงานด้วยระบบใด?
ก. Digital
ข. Analog
ค. Calculate
ง. ข้อจำกัดของคอมพิวเตอร์คือข้อใด?
ก. เครื่องมีราคาแพงขาดแคลน
ข.บุคลากรทางคอมพิวเตอร์
ค. การทำงานขึ้นอยู่กัมนุษย์
ง. ถูกทุกข้อ
6. ก่อนที่หน่วยงานจะเลือกนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งาน หน่วยงานนั้นๆ จะต้องดำเนินงานในเรื่องใดก่อน?
ก. จัดหาบุคลากรคอมพิวเตอร์
ข. วางระบบงาน
ค. จัดซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์
ง. ถูกทุกข้อ
7. สิ่งใดที่ไม่มีในเครื่องคอมพิวเตอร์?
ก.ความคิด
ข. ความจำ
ค. การควบคุมตนเอง
ง. การเปรียบเทียบเชิงตรรกะ
8. ข้อใดคือข้อดีของคอมพิวเตอร์?
ก. มีความเร็วสูง
ข. มีความเชื่อถือได้
ค. มีความถูกต้องแม่นยำ
ง. ถูกทุกข้อ
9. ในโรงงานอุตสาหกรรมนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานด้านใด?
ก. ควบคุมการผลิต
ข. การใช้หุ่นยนต์ในการทำงานที่เสี่ยงอันตราย
ค. การวางแผนการผลิต
ง. ถูกทุกข้อ
10.ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้ในการบริการลูกค้าในเรื่องใด?
ก. บริการ ATM
ข. บริการด้านบัตรเครดิต
ค. บริการ ณ จุดขาย
ง. บริการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า
11. บริษัทที่มีบทบาทอย่างมากในการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกคือบริษัทใด
ก. IBM
ข. COMPAQ
ค. MICROSOFT
ง. DIGTAL
12.ข้อใดเป็นประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ในทางธุรกิจ
ก.การฝาก-ถอนเงินผ่านตู้ ATM
ข. การจองตั๋วเครื่องบิน
ค. การเก็บภาษีกรมสรรพากร
ง. การนำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการสอน
13. Lap Top เป็นขนาดของคอมพิวเตอร์ชนิดใด
ก. ขนาดตั้งโต๊ะ
ข. ขนาดสมุดโน๊ต
ค. ขนาดวางตัก
ง. ขนาดฝ่ามือ
14. Note Book เป็นขนาดของคอมพิวเตอร์ชนิดใด
ก. ขนาดตั้งโต๊ะ
ข. ขนาดสมุดโน๊ต
ค. ขนาดวางตัก
ง. ขนาดฝ่ามือ
15. Palm Top เป็นขนาดของคอมพิวเตอร์ชนิดใด
ก. ขนาดตั้งโต๊ะ
ข. ขนาดสมุดโน๊ต
ค. ขนาดวางตัก
ง. ขนาดฝ่ามือ1
6. ถ้าต้องการพิมพ์เอกสารในระบบ WINDOWS จะต้องคลิกที่ START MENU ใด
ก. MY DOCUMENT
ข .MY COMPUTER
ค. PROGARM
ง. CONTROL PANEL
17.โดยปกติเอกสารจะจัดในลักษณะใดเป็นหลัก
ก. ชิดซ้าย
ข. ชิดจวา
ค. กึ่งกลาง
ง. ชิดขอบ
18.ข้อใดไม่อยู่ในการเพิ่มเติมลักษณะพิเศษ
ก. ชุดรูปแบบ
ข. พื้นผิว
ค. ลวดลาย
ง. รูปภาพ
19.ในการใช้งานคอมพิวเตอร์นั้นอาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อเช่นลบแฟ้มข้อมูลผิดหารเราต้องการกลับคืนจะใช้คำสั่งใด
ก. ใช้คำสั่ง RE RAN
ข. ใช้คำสั่ง
ค.Mainboard
ง.Keyboard
20.ส่วนใดของคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่ป้อนข้อมูล
ก. Printer
ข.Monitor
ค.Mainboard
ง.Keyboard
21.ข้อใดเป็นบริการที่เราสามารถใช้ได้บนอินเตอร์เน็ต
ก. อ่านข่าวสาร ความรู้และบันเทิง
ข. รับส่งข้อความและสั่งซื้อสินค้า
ค. ดูหนังฟังเพลงและเล่นเกม
ง. สามารถใช้บริการได้ทุกข้อ
22.ชุดคำสั่งในระบบคอมพิวเตอร์เรียกว่าอะไร
ก. Computare
ข. Electronic
ค. lnstruction
ง. Program
23.โปรแกรมที่ใช้ในการวาดรูปภาพ แก้ไชรูปภาพ และตกแต่งภาพให้สวยงามได้คือข้อใด
ก. โปรแกรม Dos
ข. โปรแกรม Paint
ค. โปรแกรม Note Pad
ง. โปรแกรม Scandisk
24.Recy Bin ทำหน้าที่อะไร
ก. กู้ไฟล์ข้อมูล
ข. ซ่อมแซมไฟล์
ค. จัดเรียงไฟล์
ง. เป็นโฟลเดอร์สำหรับเก็บไฟล์ที่ถูกทิ้ง
25.ใช้คำสั่งที่แถบเมนู(Menu Bar)ในการเปิดแฟ้มข้อมูลเก่ามาใช้ตรงกับข้อใด
ก. คลิกเมาส์ที่เมนูเปิด (Open) เลือกแฟ้ม(File)
ข. คลิกเมาส์ที่เมนูแฟ้ม (File) เลือกเปิด(Open)
ค. คลิกเมาส์ที่เมนูแก้ไข (Edit) เลือกเปิด(Open)
ง. คลิกเมาส์ที่เมนุรูปแบบ (Format) เลือกปิด(Open)
26.หารต้องการเข้าไปที่ http://www.google.com%20ต้องพิมพ์ชื่อเว็บเพจที่ช่องใด/
ก. E-Mail
ข. Search Web
ค. Password
ง. Address
27.การตั้งค่าหน้าแรกในการเปิดเว็บไซต์เรียกว่าอะไร
ก. First Site
ข. History
ค. Home
ง. Refrest
28. ข้อมูล 8 บิตมีกี่ไบต์
ก. 1 ไบต์
ข. 2 ไบต์
ค. 3 ไบต์
ง. 4
29.2บิตมีกี่ไบต์
ก. 2 ไบต์
ข. 3 ไบต์
ค. 4 ไบต์
ง. 5 ไบต์
30.หน่วยของข้อมูลที่มีขนาดเล็กที่สุดคือข้อใด
ก. Bit
ข. Byte
ค. Charater
ง. Database
31.หน่วยของข้อมูลที่เกิดจากการนำบิตมารวมกันคือข้อใด
ก. Field
ข. File
ค. Byte
ง. Record
32.ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน เรียกว่าอะไร
ก. ซอฟต์แวร์
ข. ฮาร์ดแวร์
ค. พีเพิลแวร์
ง.ร ะเบียบวิธปฏิบัติ
33.องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง
ก. ฮาร์ดแวร์ (Hard ware)
ข. ซอฟต์แวร์ (Soft ware)
ค. บุคลากร(people ware) และข้อมูล (Data)
ง. ถูกทุกข้อ
34. ฮาร์ดแวร์หมายถึงอะไร
ก. หมายถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได (รูปธรรม) เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์
ข .หมายถึง ส่วนที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรง (นามธรรม) เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน
ค. หมายถึง บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ
ง. ข้อมูลเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในระบบคอมพิวเตอร์
35.ซอฟต์แวร์หมายถึงอะไร
ก. อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ (รูปธรรม) เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์
ข. หมายถึง ส่วนที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรง (นามธรรม) เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน
ค. หมายถึง บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ
ง. ข้อมูลเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในระบบคอมพิวเตอร์
36.ข้อใด เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลเบื้องต้น
ก. จอภาพ
ข. คีย์บอร์ด
ค. เครื่องพิมพ์
ง. เคส
37.ซอฟต์แวร์แบ่งได้เป็น 2ประเภทอะไร
ก. ซอฟต์แวร์ระบบ
ข. ซอฟต์แวร์ประยุกต์
ค. ข้อ ก และ ข ถูก
ง. ผิดทุกข้อ
38.ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)หมายถึงอะไร
ก. คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่มำให้คอมพิวเตอร์ทำงานต่างๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ
ข. คือ โปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทำงานเฉพาะอย่างที่เราต้องการ
ค. คือเป็นโปรแกรมประยุกต์ที่มีผู้จัดทำไว้ เพื่อใช้ในการทำงานประเภทต่างๆ
ง. คือ ชุดของคำสั่งที่เขียนไว้เป็นคำสั่งสำเร็จรูป ซึ่งจะทำงานใกล้ชิดกับคอมพิวเตอร์มากที่สุด
39.คอมพิวเตอร์ยุคใด ใช้วงจรไอซี (Integrated Circuit) เป็นหลัก
ก. คอมพิวเตอร์ยุคแรก
ข. คอมพิวเตอร์ยุคที่ 2
ค. คอมพิวเตอร์ยุคที่ 3
์ง. คอมพิวเตอร์ยุคในยุคปัจจุบัน
40.คอมพิวเตอร์มีบทบาทกับการศึกษาอย่างไร
ก. นำมาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอน เช่น ทำสื่อต่างๆ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นต้น
ข. ใช้ในงานบริหารของโรงเรียน เช่น การจัดทำประวัตินักเรียน ประวัติครูอาจารย์ เป็นต้น
ค. ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ เช่นการค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ต
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลย 1.ค 2.ง 3.ค 4.ก 5.ค 6.ก 7.ค 8.ค 9.ง 10.ค11.ก 12. ก 13.ข 14.ค 15.ง 16.ค 17.ก 18.ก 19.ค 20.ง21.ง 22. ง 23.ข 24.ง 25.ข 26.ง 27.ก 28.ก 29.ค 30.ก31.ค 32. ก 33.ง 34.ก 35.ข 36.ข 37.ค 38.ง 39.ค 40.ง

HTML

วันศุกร์, สิงหาคม 29, 2008
HTML
ภาษา HTML (HyperText Markup Language) เป็นภาษาหลักที่ใช้ในการสร้างเวบเพจ (Web Page) เป็นภาษาประเภท Markup Languageเกิดขึ้นจากการพัฒนาระบบ World Wide Web ในเดือนมีนาคม 1989 โดยนักวิจัยจากสถาบัน CERN (Conseil European Pour La Recherche Nucleaire) ซึ่งเป็นห้องทดลองในเมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ชื่อ ทิม เบอร์เนอร์ - ลี (Tim Berners - Lee) ซึ่ง ทิม เบอร์เนอร์ - ลี ได้นำแนวความคิดในเรื่อง Hypertext ของ Vannevar Bush และ Ted Nelson มาใช้เพื่อกระจายข้อมูลในองค์กร ต่อมามีการพัฒนาและกำหนดมาตรฐานโดยองค์กรที่ชื่อว่า W3C (World Wide Web Consortium)ภาษา HTML เป็นภาษาที่มีลักษณะของข้อมูลที่เป็นตัวอักษรในมาตรฐานของรหัสแอสกี (ASCII Code) โดยเขียนอยู่ในรูปของเอกสารข้อความ (Text Document) จึงกำหนดรูปแบบและโครงสร้างได้ง่าย ภาษา HTML ได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ HTML Level 1 (รุ่นดั้งเดิม), HTML 2.0, HTML 3.0, HTML 3.2 และ HTML 4.0 ซึ่งเป็นรุ่นที่นิยมเขียนกันในปัจจุบัน (ขณะนี้ W3C ได้พัฒนา HTML 4.01 ออกมาแล้ว เพื่อลองรับมาตรฐานภาษา XML) จึงทำให้ภาษา HTML ในปัจจุบันสามารถแสดงภาพทางกราฟฟิกและระบบเสียงได้ เพื่อตอบสนองในการทำงานในปัจจุบันภาษา HTML สามารถสร้างขึ้นได้จากโปรแกรมสร้างไฟล์ข้อความ (Text Editor) ทั่ว ๆ ไป เช่น Notepad หรือ Word Processing ได้ อีกทั้งง่ายต่อการเรียนรู้เพราะภาษา HTML ไม่มีโครงสร้างความเป็น Programming เลยแม้แต่น้อย และไฟล์ที่ได้จากการสร้างเอกสาร HTML ยังมีขนาดเล็กอีกด้วยนามสกุลของไฟล์ HTML จะเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .html ซึ่งใช้ในทั้งระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (UNIX) และระบบปฏิบัติการ Windowsและเรียกใช้งานได้จากเว็บบราวเซอร์ (Web Browser) เช่น Internet Explorer หรือ NetScapeTagTag เป็นลักษณะเฉพาะของภาษา HTML ใช้ในการระบุรูปแบบคำสั่ง หรือการลงรหัสคำสั่ง HTML ภายในเครื่องหมาย less-than bracket ( < ) และ greater-than bracket ( > ) โดยที่ Tag HTML แบ่งได้ 2 ลักษณะ คือTag เดี่ยวเป็น Tag ที่ไม่ต้องมีการปิดรหัส เช่นเป็นต้นTag เปิด/ปิดเป็น Tag ที่ประกอบด้วย Tag เปิด และ Tag ปิด โดย Tag ปิด จะมีเครื่องหมาย slash ( / ) นำหน้าคำสั่งใน Tag นั้นๆ เช่น …, … เป็นต้นAttributesAttributes เป็นส่วนขยายความสามารถของ Tag จะต้องใส่ภายในเครื่องหมาย < > ในส่วน Tag เปิดเท่านั้น Tag คำสั่ง HTML แต่ละคำสั่ง จะมี Attribute แตกต่างกันไป และมีจำนวนไม่เท่ากัน การระบุ Attribute มากกว่า 1 Attribute ให้ใช้ช่องว่างเป็นตัวคั่นเช่น Attributes ของ Tag เกี่ยวกับการจัดพารากราฟ คือ
ประกอบด้วย ALIGN=" Left / Right / Center / Justify "
ข้อสอบปรนัย 15ข้อ เรื่อง HTML
1.ภาษา HTMLเป็นภาษาประเภทใด
ก.Markup Lanuage
ข.Mark 1
ค.Toblo colkง.Bilyni
2.นามสกุลของ HTMLคือ
ก. .htm
lข. co.th
ค. ac.th
ง. com
3. รุ่นดั้งเดิมของHTML คือ
ก. HTML LEVE 1
ข. HTML 2.0
ค. HTML 3.0
ง. HTML 4.0
4.HTMLรุ่นที่นิยมเขียนในปัจจุบันคือ
ก. HTML 1
ข. HTML 2.0
ค. HTML 3.0
ง. ผิดข้อ ก ข้อเดียว
5.ภาษาHTML สร้างได้จาก
ก.ไฟล์รูปภาพ
ข.ไฟล์เสียง
ค.ไฟล์ข้อูล
ง.ไฟล์ข้อความ
6. ระบบปฏิบัติการ Windowsเรียนใช้งานได้จาก
ก. Ascll Code
ข. Word Processing
ค. Web Browser
ง. Text Editor
7.ภาษา HTMLเป็นภาษาในการสร้างอะไร
ก. Web Page
ข. Home Page
ค. Internet
ง. Text Editor
8.ภาษา Markup Language เกิดขั้นจากการพัฒนาระบบ Woeld Wid Web เกิดขึ้นในช่วงเดือนใดปี คศ ใด
ก. มกราคม 1989
ข. มกราคม 1999
ค. มีนาคม 1989
ง. มีนาคม 1999
9.นักวิจัยคนใดที่ได้นำแนวคิดเรื่อง Hypertextมาเพื่อกระจายข้อมูลในองค์กร
ก. Tim Berners
ข. Lumtian Paoart
ค. Wilai Jantip
ง. Jonh son
10.Tagเป็นลักษณะเฉพาะของภาษาHTMLใช้ในการระบุรูปแบบใด
ก. รูปแบบข้อมูล
ข. รูปแบบประมวล
ค.รูปแบบคำสั่ง
ง. รูปแบบปฏิบัติการ
11.Tagประกอบด้วยTag เปิดแลTag ปิดจะมีเครื่องหมายใดนำหน้าคำสั่ง
ก. *
ข. /
ค. -
ง.+
12. Atrtibutes คืออะไร
ก. ส่วนขยาย
ข. ส่วยย่อ
ค. ส่วนเปิด
ง. ส่วนปิด
13.Attributes เป็นส่วนขยายความสามารถของอะไร
ก. Tag
ข. Tex
ค. . Bta
14.Attributes ของTag จะใส่เครื่องหมายใด
ก. <>
ข. //
ค.( )
ง.--
15.Attributes ของ Tagใช้งานเกี่ยวกับอะไร
ก. กราฟ
ข.พารากราฟ
ค. แผนภูมิ
ง. ทศนิยม
เฉลย 1.ก 2.ก 3.ก 4.ง 5.ง 6.ค 7.ก 8.ค 9.ก 10.ค11.ข 12.ก 13.ก 14.ก 15.ข

วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เทคนิคการใช้Excel

Excel ได้ถูกออกแบบให้ทำงานภายใน Sheet เมื่อเปิดแฟ้ม Excel ขึ้นมาในแต่ละครั้ง Workbook ที่เปิดก็จะพบกับกระดาษแผ่นงาน (Worksheet) หลายแผ่น เรียงกันเป็น Sheet1 Sheet2 ติดต่อกันไป อยู่ในตำแหน่งซ้ายล่างของหน้าต่างโปรแกรม โปรแกรม Excel ที่ติดตั้งครั้งแรกส่วนใหญ่ได้กำหนดจำนวน Sheet ให้มีไว้ 3 Sheet กรณีที่ผู้ใช้ต้องการใช้ Sheet มากกว่าจำนวน Sheet ที่กำหนดไว้ก็ต้องมีการเพิ่ม Sheet มีวิธีที่สามารถกำหนดจำนวน Sheet ให้ Excel ตามความต้องการของผู้ใช้ได้และเมื่อไม่ต้องการให้ Sheet ปรากฏอยู่ในแฟ้มงานก็ให้ลบ Sheet นั้นออกไป

1 การเพิ่มจำนวน Sheet
วิธีที่ 1 ไปที่ เครื่องมือ/ตัวเลือก (รูปที่ 1-1) ที่กรอบตอบโต้ของตัวเลือก ให้กดเลือกแถบเมนูทั่วไป ที่ช่องรายการแผ่นงานในสมุดงานใหม่ กดปุ่มลูกศรขึ้นเพื่อเลือกจำนวนแผ่นงานที่ต้องการให้เพิ่มขึ้นหรือกดปุ่มลูกศรลงเพื่อเลือกจำนวนแผ่นงานที่ต้องการให้ลดลง (รูปที่ 1-2) กดปุ่ม ตกลง
รูปที่ 1-1 การเรียกคำสั่งใน เครื่องมือ/ตัวเลือก รูปที่ 1-2 เลือกตัวเลือกแผ่นงานในสมุดงานใหม่
หลังจากกำหนดจำนวนแผ่นงานในสมุดงานใหม่ด้วยวิธีนี้แล้วจะมีผลกับการเปิดโปรแกรม Excel ในครั้งต่อไปและสามารถตั้งค่าจำนวน Sheet ได้ สูงสุด 255 Sheet
วิธีที่ 2 ไปที่ แทรก/แผ่นงาน Sheet แผ่นงานใหม่ก็จะเพิ่มขึ้น (รูปที่ 1-3) หรือ เลื่อนลูกศรเมาส์ไปที่ Sheet แผ่นงานปัจจุบัน Clickเมาส์ปุ่มขวาเลือกแทรก กดเลือก แผ่นงาน กดปุ่ม ตกลง (รูปที่ 1-4)
วิธีที่ 3 สามารถเพิ่มจำนวน Sheet ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการกดปุ่ม Shift+F11 (กดปุ่ม Shift ค้างไว้หลังจากนั้นกดปุ่ม F11 ตาม) วิธีนี้สามารถสร้าง Sheet เพิ่มได้อย่างรวดเร็วและเพิ่ม Sheet ได้มากเกินกว่า 255 Sheet (วิธีที่ 1) แต่การเพิ่ม Sheet มากเกินไปก็จะส่งผลทำให้การโหลด Workbook นั้นมาใช้งานได้ช้าลงไปด้วย
รูปที่ 1-3 ไปที่เมนูแทรก/แผ่นงาน
รูปที่ 1-4 Click เมาส์ปุ่มขวาเลือกแทรก/แผ่นงาน
2. การลบ Sheet เมื่อผู้ใช้ไม่ต้องการ Sheet ที่บันทึกไว้ก็สามารถลบ Sheet ดังกล่าวนั้นได้ โดยกดเลือกแถบ Sheet ที่ต้องการลบ คลิกเมาส์ปุ่มขวาเรียกคำสั่งเมนูลัดขึ้นมา กดเลือกลบ โปรแกรมจะให้ยืนยันการลบอีกครั้ง กดปุ่ม ตกลง
การลบหลาย Sheet สามารถทำได้โดยการกดเลือกแถบ Sheet ที่ต้องการลบ ให้กดปุ่ม Shift ค้างไว้หลังจากนั้นให้คลิกเมาส์เลือก Sheet อี่น ๆ ที่ต้องการลบ ตามด้วยการคลิกเมาส์ปุ่มขวาเรียกคำสั่งเมนูลัดขึ้นมา กดเลือกลบ โปรแกรมจะให้ยืนยันการลบอีกครั้ง กดปุ่ม ตกลง
3. ข้อควรคำนึง โดยปกติส่วนใหญ่แล้วโปรแกรม Excel จะมีการแสดงผลใน Sheet ต่าง ๆ ผู้ใช้สามารถเพิ่มจำนวน Sheet หรือลบ Sheet ออกไปได้ ควรมีจำนวน Sheet ที่จำเป็นเท่านั้น Sheet ที่ว่างเปล่า ไม่ได้ใช้ ควรลบออกไป แฟ้มที่มี Sheet จำนวนมากจะส่งผลให้การเรียกแฟ้มนั้นมาใช้งานได้ช้าลงไปด้วย
4.แบบฝึกหัด ให้ปิดโปรแกรม Excel ที่ใช้งานอยู่ก่อน หลังจากนั้นเปิดโปรแกรม Excel ขึ้นมาใหม่ ฝึกทบทวนการเพิ่ม Sheet ทั้ง 3 วิธี วิธีที่ 1 ให้กำหนดแผ่นงานในสมุดงานใหม่ 5 Sheet วิธีที่ 2 ให้เพิ่ม Sheet เป็น 50 Sheet วิธีที่ 3 ให้เพิ่ม Sheet เป็น 500 Sheet ให้บันทึกการทำงานไว้พร้อมทั้งปิดโปรแกรม หลังจากนั้นเปิดโปรแกรม Excel ขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง สังเกตความเปลี่ยนแปลงของเวลาที่ใช้โหลดโปรแกรม (กรณีที่ยังไม่มีข้อมูลในแผ่นงานก็อาจจะไม่เห็นความแตกต่างมากนัก) ให้ลบ Sheet ในส่วนที่เพิ่มออกทั้งหมดพร้อมทั้งให้กำหนดแผ่นงานในสมุดงานใหม่ 3 Sheet เหมือนเดิม
5.กล่าวนำ
การใช้งานในโปรแกรม Excel มีบางครั้งต้องเรียกคำสั่งให้โปรแกรมทำงานในลักษณะซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง ตามรูปแบบ ชั้นตอนที่ได้กำหนดไว้ซึ่งก็คือชุดคำสั่งที่ได้รวบรวมไว้ เมื่อต้องการใช้คำสั่งเหล่านี้ก็ต้องเรียกคำสั่งให้โปรแกรมทำงานในลักษณะซ้ำ ๆ กันอีก นักพัฒนาโปรแกรมจึงได้เขียนคำสั่งดังกล่าวนี้ขึ้นมาโดยเรียกว่าไมโคร (macro) เมื่อต้องการให้ไมโครทำงานก็สามารถเรียกคำสั่งผ่านคีย์บอร์ดหรือกดปุ่มจากเมาส์เพียงครั้งเดียว โปรแกรมก็จะทำงานให้อัตโนมัติ เทคนิค Excel ในตอนนี้จึงเป็นการนำความสามารถของไมโคร มาใช้ในการสร้างเมนูขึ้นมา โดยการกำหนดปุ่มเพื่อกดเลือกไปยังข้อมูลที่ต้องการ 4.2. การสร้าง ไมโคร
ไมโครสร้างได้ 2 วิธีคือ การเขียนไมโครขึนมาใช้เองโดยใช้ภาษา visual basic และสร้างจาก macro recorder โดยการให้โปรแกรมบันทึกการทำงานไว้ก่อนเพื่อย้อนกลับมาใช้งานแบบอัตโนมัติภายหลัง ในการแนะนำครั้งนี้จะกล่าวถึงการสร้างแมโครแบบง่าย ๆ ทั้ง 2 วิธี 4.3. ขั้นตอนการบันทึก แมโคร
6.ก่อนการบันทึกแมโคร ต้องกำหนดแผนงานก่อนว่าจะให้ไมโครบันทึกอะไร เป็นขั้นเป็นตอนตามลำดับอย่างไร ในที่นี้จะให้เรียนรู้การสร้างไมโคร โดยการสร้างปุ่มในเมนูหลัก เรียก Sheet ต่าง ๆ มาปรากฏและสร้างปุ่ม กลับสู่เมนูหลัก ไปยัง Sheet ที่เป็นเมนูหลักตามเดิม พร้อมทั้งสร้างปุ่มออกจากโปรแกรม ดังนั้นไมโครที่จะบันทึกโดยสร้างจาก macro recorder มีไมโครเมนูหลัก ไมโคร Sheet 1 ไมโครSheet 2 กับไมโครออกจากโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาโดยใช้ภาษา visual basic
7.เปิดแฟ้ม Excel ขึ้นมาใหม่ ซึ่งมี Sheet อยู่ 3 Sheet กำหนดให้ Sheet 1 ที่เปิดอยู่เป็น Sheet ของเมนูหลัก ไปที่ เซลล์ B2 พิมพ์คำว่า เมนูหลัก ขั้นตอนต่อไปก็ให้กดเลือก Sheet 2 ไปที่ เซลล์ B2 พิมพ์คำว่า Sheet 2 และกดเลือก Sheet 3 ไปที่ เซลล์ B2 พิมพ์คำว่า Sheet 3
8. การบันทึกไมโครเมนูหลัก ไปที่ เครื่องมือ/ไมโคร/บันทึกไมโครใหม่ (รูปที่ 4-1) กำหนดการบันทึกไมโคร หลังจากกดปุ่มเลือกบันทึกไมโครใหม่ จะปรากฏกรอบตอบโต้ให้มีการกำหนดการบันทึกไมโคร (รูปที่ 4-2) พิมชื่อ เมนูหลัก กำหนดคีย์ลัดเป็น M ที่ช่องเก็บไมโครใน ให้คลิกลูกศรลงเลือก สมุดงานนี้ ในส่วนของคำอธิบายพิมพ์ เมนูหลัก 08/01/2003 โดย สมเกียรติ ทองรักษ์ กดปุ่ม ตกลง หลังจากนี้เป็นต้นไปเมื่อผู้ใช้ไปที่ไหนหรือทำอะไรในโปรแกรม Excel ตัวโปรแกรมจะบันทึกไว้ทั้งหมดโดยจะปรากฏกรอบตอบโต้ หยุดการบันทึกเกิดขึ้น (รูปที่ 4-3) ให้กดเลือก Sheet 1 หลังจากนั้นให้กดปุ่ม แถบสี่เหลี่ยม หยุดการบันทึก เป็นการสิ้นสุดกระบวนการบันทึกไมโครเมนูหลัก
รูปที่ 4-1 การเรียกคำสั่งแมโครมาใช้งาน
รูปที่ 4-2 การกำหนดการบันทึกแมโคร
รูปที่ 4-3 กรอบคำสั่งหยุดการบันทึกแมโคร
ข้อกำหนดของการบันทึกแมโคร
ชื่อแมโคร - ต้องเริ่มต้นด้วยตัวอักษรเท่านั้น
- ใช้เครื่องหมาย Underscore ( _ )
- ไม่ให้เว้นวรรคชื่อ ไม่ให้ใช้สัญญลักษณ์พิเศษ
- กำหนดชื่อได้ยาว 46 ตัวอักษร
คีย์ลัด - คีย์ลัดต้องเป็นตัวอักษรเท่านั้น โดยกำหนดให้เป็นตัวอักษรโดด
เก็บไมโครใน - สมุดงานนี้ เป็นการจัดเก็บไมโครให้ใช้งานอยู่ในสมุดงานปัจจุบันนี้
- สมุดงานไมโครส่วนบุคคล เป็นการจัดเก็บไมโครให้ใช้งานได้ในทุก ๆ สมุดงาน
- สมุดงานใหม่ เป็นการจัดเก็บไมโครให้ใช้งานในสมุดงานถัดไป
คำอธิบาย - ควรมีชื่อไมโคร วัน เดือน ปี ที่บันทึกและชื่อผู้บันทึก
9.การบันทึกไมโครเมนู Sheet 2 ไปที่ เครื่องมือ/ไมโคร เลือกบันทึกไมโครใหม่ ที่กรอบตอบโต้ให้มีการกำหนดการบันทึกไมโคร พิมพ์ชื่อ Sheet 2 กำหนดคีย์ลัดเป็น A ที่ช่องเก็บไมโครใน ให้คลิกลูกศรลงเลือก สมุดงานนี้ ในส่วนของคำอธิบายพิมพ์ Sheet 2 วัน เดือน ปี ที่บันทึกและชื่อผู้บันทึกไว้ให้ใช้ข้อมูลเดิม กดปุ่ม ตกลง ให้กดเลือก Sheet 2 หลังจากนั้นกดปุ่ม แถบสี่เหลี่ยม หยุดการบันทึก
10. การบันทึกไมโครเมนู Sheet 3 ไปที่ เครื่องมือ/แมโคร เลือกบันทึกแมโครใหม่ ที่กรอบตอบโต้ให้มีการกำหนดการบันทึกแมโคร พิมพ์ชื่อ Sheet 3 กำหนดคีย์ลัดเป็น B ที่ช่องเก็บแมโครใน ให้คลิกลูกศรลงเลือก สมุดงานนี้ ในส่วนของคำอธิบายพิมพ์ Sheet 3 วัน เดือน ปี ที่บันทึกและชื่อผู้บันทึกไว้ให้ใช้ข้อมูลเดิม กดปุ่ม ตกลง ให้กดเลือก Sheet 3 หลังจากนั้นกดปุ่ม แถบสี่เหลี่ยม หยุดการบันทึก
11. การเขียนแมโคร ออกจากโปรแกรมโดยใช้ภาษา visual basic กดปุ่ม Alt+F11 เพื่อเข้าสู่ Microsoft Visual Basic ที่ Project-VBA Project ให้ Double Click ที่ ThisWorkbook (รูปที่ 4-4) จะปรากฏแผ่นงาน ThisWorkbook (Code) ขื้นมาให้เขียน Code พิมพ์ Code ดังกล่าวนี้ลงไป (รูปที่ 4-5) หลังจากนั้นให้กดปุ่ม Alt+Q เพื่อออกจาก Microsoft Visual Basic
รูปที่ 4-4 การเรียก VBA มาใช้งาน รูปที่ 4-5 การเขียน Code VBA Project ใน ThisWorkbook
12.การสร้างปุ่มแมโคร 4.1 คลิกเลือก Sheet 1 สร้างปุ่มเมนู เพื่อไป Sheet 2 กดที่ปุ่มที่อยู่แถบเครื่องมือด้านบน (กรณียังไม่มีกลุ่มของแถบเครื่องมือการออกแบบฟอร์มผู้ใช้ ให้ไปที่ มุมมอง/แถบเครื่องมือ เลือกฟอร์ม (รูปที่ 4-6) กลุ่มแถบเครื่องมือดังกล่าวจะปรากฏขึ้นมาในแถบเครื่องมือด้านบน) โดยกดเมาส์ค้างไว้ นำไปลากและวางในช่วงเซลล์ B4:C4 จะเกิดปุ่ม 1 ขึ้นมาพร้อมทั้งให้กำหนดแมโคร คลิกเลือกชื่อแมโคร Sheet 2 กำหนดแมโครให้ใช้ในสมุดงานนี้ กดปุ่ม ตกลง (รูปที่ 4-7) หลังจากนั้นให้เปลี่ยนชื่อ ปุ่ม 1 โดยการดับเบิลคลิกที่ปุ่ม 1 เปลี่ยนชื่อปุ่มจากปุ่ม 1 เป็น ไป Sheet 2

รูปที่ 4-6 การเรียกแถบเครื่องมือฟอร์ม รูปที่ 4-7 การสร้างปุ่มให้แมโคร เลือก Sheet 2
13.สร้างปุ่มเมนู เพื่อไป Sheet 3 กดที่ปุ่มโดยกดเมาส์ค้างไว้ นำไปลากและวางในช่วงเซลล์ B6:C6 จะเกิดปุ่ม 2 ขึ้นมาพร้อมทั้งให้กำหนดแมโคร คลิกเลือกชื่อแมโคร Sheet 2 กำหนดแมโครให้ใช้ในสมุดงานนี้ กดปุ่ม ตกลง หลังจากนั้นให้เปลี่ยนชื่อ ปุ่ม 2 เป็น ไป Sheet 3
14.สร้างปุ่มเมน ู เพื่อไป Sheet 3 กดที่ปุ่มโดยกดเมาส์ค้างไว้ นำไปลากและวางในช่วงเซลล์ B8:C8 จะเกิดปุ่ม 3 ขึ้นมาพร้อมทั้งให้กำหนดแมโคร คลิกเลือกชื่อแมโคร ThisWorkbook.CloseExcel กำหนดแมโครให้ใช้ในสมุดงานนี้ กดปุ่ม ตกลง หลังจากนั้นให้เปลี่ยนชื่อ ปุ่ม 3 เป็น ออกจากโปรแกรม จะได้เมนูที่สร้างขึ้นใน Sheet 1 (รูปที่ 4-8)
15.สร้างปุ่ม กลับสู่เมนูหลักใน Sheet 2 และ Sheet 3 ไปที่ Sheet 2 กดที่ปุ่มโดยกดเมาส์ค้างไว้ นำไปลากและวางในช่วงเซลล์ B4:C4 จะเกิดปุ่ม 4 ขึ้นมาพร้อมทั้งให้กำหนดแมโคร คลิกเลือกชื่อแมโคร เมนูหลัก กำหนดแมโครให้ใช้ในสมุดงานนี้ กดปุ่ม ตกลง หลังจากนั้นให้เปลี่ยนชื่อ ปุ่ม 4 เป็น กลับสู่เมนูหลัก (รูปที่ 4-9) หลังจากสร้างปุ่ม กลับสู่เมนูหลัก ใน Sheet 2 เสร็จแล้ว ให้คัดลอกปุ่มดังกล่าวนี้ ไปไว้ใน Sheet 3 โดยเลื่อนเมาส์ไปชี้ที่ปุ่มดังกล่าว คลิกเมาส์ปุ่มขวาเลือกคำสั่ง คัดลอก ไปที่ Sheet 3 คลิกเมาส์เลือกเซลล์ B4
รูปที่ 4-8 Sheet 1 เมนูหลัก รูปที่ 4-9 Sheet 2 รูปที่ 4-10 Sheet 3
คลิกเมาส์ปุ่มขวา เลือกคำสั่ง วาง คลิกเมาส์หนีไปยังเซลล์อื่น จะได้ปุ่ม กลับสู่เมนูหลักที่อยู่ใน Sheet 3 ด้วย (รูปที่ 4-10)
16. การเรียกใช้แมโคร
เรียกใช้งานแมโครได้ 3 วิธี ดังนี้
17. เรียกจากคีย์ลัด (Shortcut Key) โดยการกดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ตามด้วยตัวอักษรที่กำหนดไว้ ให้ทดลองใช้ดู แมโครที่ได้กำหนดคีย์ลัดไว้มีดังนี้
- Ctrl+M เรียกแมโครเมนูหลัก
- Ctrl+A เรียกแมโคร Sheet 2
- Ctrl+B เรียกแมโคร Sheet 3
18.เรียกคำสั่งให้ run โดยไปที่ เครื่องมือ/แมโคร/แมโคร หรือกดปุ่ม Alt+F8 เลือกชื่อแมโคร กดปุ่มคำสั่ง รัน ให้ทดลองเรียกคำสั่ง เลือกชื่อแมโครและรัน
เรียกจากปุ่มที่สร้างไว้ หลังจากสร้างปุ่มเสร็จแล้ว เมื่อเลื่อนเมาส์ไปยังปุ่มดังกล่าวจะเกิดสัญญลักษณ์ที่เป็นรูปมือปรากฏขึ้น เมื่อกดปุ่ม คำสั่งแมโครก็จะทำงานให้ทันที วิธีนี้สามารถเรียกใช้ได้สะดวกกว่า 2 วิธีแรก ให้ทดลองใช้ดูในปุ่ม Sheet 1 Sheet 2 และ Sheet 3

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2551

คำถาม คำตอบ

1.ผู้ก่อตั้ง google มีทั้งหมดกี่คน
ก.5 คน
ข.8 คน
ค.2 คน
ง.3 คน

2.ใครเป็นผู้ก่อตั้ง google
ก.larry page and sergey brin
ข.larry page and tonny
ค.page and jonny
ง. backrub and sergey brin

3.Google ก่อตั้งเมื่อเดือนอะไรและ พ.ศ ไหน
ก. มกราคม และ ใน พ.ศ 2539
ข. เดือน มีนาคม และ ใน พ.ศ 2532
ค. เดือน เมษายน และ ใน พ.ศ 2541
ง. เดือน ธันวาคม และ ใน พ.ศ 2525

4.Google มีรายได้ในการทําอะไร
ก.การโฆษณาออนไลน์
ข.การทําโปแกรม
ค.การพิมพ์งาน
ง.การประดิษฐ์

5.Google มีชื่อบริษัทว่าอะไร
ก.บริษัทมหาชนอเมริกัน
ข.บริษัทกันตนา
ค.บริษัททุ่งว่าง
ง.บริษัทModers

ประวัติ และความเป็นมาของ Google

ประวัติ Googleกูเกิล (Google Inc.) (แนสแด็ก: GOOG และ LSE: GGEA) เป็นบริษัทมหาชนอเมริกัน มีรายได้หลักจากการโฆษณาออนไลน์ที่ปรากฏในเสิร์ชเอนจินของกูเกิล อีเมล แผนที่ออนไลน์ ซอฟต์แวร์จัดการด้านสำนักงาน เครือข่ายออนไลน์ และวิดีโอออนไลน์ รวมถึงการขายอุปกรณ์ช่วยในการค้นหา กูเกิลสำนักงานใหญ่ที่รู้จักในชื่อกูเกิลเพล็กซ์ตั้งอยู่ที่เมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีพนักงาน 16,805 คน (31 ธันวาคม 2550) [3] โดยกูเกิลเป็นบริษัทอเมริกันที่ใหญ่ที่สุดที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีดาวโจนส์ (ข้อมูล 31 ตุลาคม พ.ศ. 2550) [4]กูเกิลก่อตั้งโดย แลร์รี เพจ และ เซอร์เกย์ บริน ขณะที่ทั้งคู่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งภายหลังทั้งคู่ได้ก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2541 ในโรงจอดรถของเพื่อนที่ เมืองเมนโลพาร์ก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย [1] และมีการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก เมื่อ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2547 เพิ่มมูลค่าของบริษัท 1.67 พันล้านเหรียญสหรัฐ และหลังจากนั้นทางกูเกิลได้มีการขยายตัวตลอดเวลาจากการพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่และการซื้อกิจการอื่นรวมเข้ามา กูเกิลได้ถูกจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาโดยนิตยสารฟอร์จูน[5] ซึ่งมีคติพจน์ประจำบริษัทคือ Don't be evil อย่างไรก็ตามทางบริษัทได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในด้านการละเมิดข้อมูลส่วนตัว การละเมิดลิขสิทธิ์ และการเซ็นเซอร์ในหลายส่วน